คือ Indicator ตัวหนึ่งที่หลายคนนิยมใช้ โดยการนำราคามาหาค่าเฉลี่ย Moving Average เป็นการคำนวณโดยใช้ข้อมูลในอดีตมาคำนวณหาค่าเฉลี่ย โดยเราสามารถกำหนดชุดข้อมูลที่สนใจได้
Table of Contents
ToggleMoving Average คือ ?
- คือ Indicator ตัวหนึ่งที่เทรดเดอร์นิยมใช้ โดยการนำราคาย้อนหลังมาหาค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาที่กำหนด
- เป็น Indicator ยอดนิยมอันดับ 1 ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะต้องมีไว้เวลาวิเคราะห์กราฟเทคนิค
- Moving Average เป็นการคำนวณโดยใช้ข้อมูลในอดีตมาคำนวณหาค่าเฉลี่ย โดยเราสามารถกำหนดช่วงเวลาที่สนใจได้ เช่น 20, 30 ,100 หรือ 200 แท่งที่ผ่านมา
- Moving Average เป็นพื้นฐานของ Indicator ตัวอื่น ๆ อีกหลายตัว เช่น Bollinger Band, MACD เป็นต้น
Moving Average ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
- ใช้ในการดูแนวโน้ม(Trend) ว่าในช่วงนี้เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือแนวโน้มขาลง หรือไม่มีแนวโน้ม
- ใช้เป็นแนวรับ (Support) หรือแนวต้าน (Resistance) เคลื่อนที่
- ใช้เป็นตัวตัดสินใจว่าเราควรจะทำการเทรดฝั่ง Buy หรือ ฝั่ง Sell
ประเภทของ MOVING AVERAGE INDICATORS
เส้นค่าเฉลี่ยที่เทรดเดอร์นิยมใช้จะมี 3 รูปแบบต่อไปนี้
- Simple Moving Average (SMA) : เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด คำนวณโดยให้ น้ำหนักข้อมูลทุกตัวเท่ากัน โดยอาศัยหลักการค่าฉลี่ยเลขคณิต การคำนวณโดยวิธีนี้จะมีการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาช้าที่สุด
- Linear Weighted Moving Average (WMA): เป็นวิธีการคำนวณที่มีความซับซ้อนขึ้นจาก SMA คำนวณโดยให้น้ำหนักทุกตัวไม่เท่ากัน โดยให้น้ำหนักกับข้อมูลที่เพิ่งเกิดล่าสุดสูงสุด และมีการถ่วงน้ำหนักข้อมูลในอดีตที่ห่างออกไปในลักษณะเชิงเส้น การคำนวณโดยวิธีนี้จะมีการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาปานกลาง
- Exponential Moving Average (EMA) : เป็นวิธีที่มีความซับซ้อนกว่า WMA ขึ้นไปอีก คำนวณโดยให้น้ำหนักทุกตัวไม่เท่ากัน โดยให้น้ำหนักกับข้อมูลที่เพิ่งเกิดล่าสุดสูงสุด และมีการถ่วงน้ำหนักข้อมูลในอดีตที่ห่างออกไปในลักษณะเอกซ์โพเนนเชียล การคำนวณโดยวิธีนี้จะมีการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาที่ไว
ในการเทรดไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสูตรคำนวณ เนื่องจากโปรแกรมเทรดจะช่วยคำนวณให้และทำการแสดงผล เราสามารถทำการตั้งค่า Moving Average ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้ ว่าต้องการการตอบสนองของราคาที่รวดเร็ว ปานกลาง หรือ ไว โดยอินดิเคเตอร์นี้จะถูกแสดงผลในลักษณะเป็นเส้นกราฟเราจึงเรียกว่า เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
การตั้งค่า Moving Average (SMA ,WMA,EMA) ให้เหมาะสมกับรูปแบบการลงทุน
ในส่วนของการใช้งานเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง SMA, WMA หรือ EMA ซึ่งมีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกันเกือบทุกอย่าง จุดที่แตกต่างกันก็มีเพียงความเร็วของการให้สัญญาณซื่อ-ขายที่ช้าหรือเร็วกว่ากันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การนำมาใช้เพื่อการวิเคราะห์ ทางเทคนิคให้ได้ผล จำเป็นต้องมีการตั้งค่าที่เหมาะสมกับรูปแบบที่เรากำลังลงทุนคือ
- รูปแบบการลงทุนในระยะสั้น ค่า Period ควรจะอยู่ที่ 5-20 วัน
- รูปแบบการลงทุนในระยะกลาง ค่า Period ควรจะอยู่ที่ 50-70 วัน
- รูปแบบการลงทุนในระยะยาว ค่า Period ควรจะอยู่ที่ 100-200 วัน
สรุป Indicator Moving Average
Indicator เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ถือได้ว่าเป็นอีกเครื่องมือมาตรฐาน ที่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเทรดเดอร์ เนื่องจากใช้งานได้ง่าย ใช้ดูแนวโน้ม หาจังหวะซื้อ จังหวะขาย ได้ด้วยเส้นแนวรับ แนวต้านของเส้น Moving Average รวมถึงยังสามารถบอกถึงสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้มด้วยการตัดกันของเส้น (Crossover Technique)
นอกจาก 3 ประเภท ได้แก่ SMA, WMA, EMA แล้ว Indicator Moving Average ยังถูกนำไปต่อยอดและพัฒนาเป็นประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ตอบสนองวัตถุประสงค์ของเทรดเดอร์มืออาชีพมากขึ้น เช่น DEMA, TEMA และอื่น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้ดีมากขึ้น ในการใช้งานเส้นค่าเฉลี่ยให้มีประสิทธิภาพนั้น จะประกอบไปด้วย 3 ปัจจัย คือ
1) รูปแบบการลงทุนของผู้ใช้งานเป็นอย่างไร (Trading Style)
2) กรอบเวลาที่ต้องการใช้ (Time Frame)
3) จำนวนช่วงข้อมูลที่ต้องการ (Parameter หรือ Period)
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ก็คือ เมื่อเจอตลาดที่มีความผันผวนสูงมากๆ (High Volatility) เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แทบทุกประเภท ไม่อาจสามารถใช้เป็นแนวรับ แนวต้าน สำหรับซื้อขายได้ เนื่องจากการปรับตัวของราคาที่รุนแรงเกินไป
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
น้ำมัน บทความยอดนิยม ประวัติเทรดเดอร์ พื้นฐาน technical analysis เทรดเดอร์มือใหม่ ์Indicator
*บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกตีความว่า มีการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำเสนอสำหรับการทำธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงินต่างๆ โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันหรืออนาคต เนื่องจากสภาวการณ์อาจมีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน