- ราคาทองปิดลบ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าบวกบอนด์ยีลด์พุ่งขึ้นกดดันราคาทองคำ สถานะการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากวันหยุดสหรัฐ ท่ามกลางการจับเฟดแถลงนโยบายการเงินในรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส
- ตลาดคาด BOE ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สกัดเงินเฟ้อสูง ซึ่งอาจส่งผลดึงบอนด์ยีลด์โลก กดดันราคาทองคำ
- FedWatch Tool ของCME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 25.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่นักลงทุนควรเฝ้าระวังในวันนี้ได้แก่ จำนวนอนุญาตก่อสร้าง เดือน พ.ค. เวลา 19.30 น. ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมามากกว่าคาดจะส่งผลบวกลบ(+/-) ต่อราคาทองคำ
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่นักลงทุนควรเฝ้าระวังในวันนี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน เดือน พ.ค. เวลา 19.30 น. ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมามากกว่าคาดจะส่งผลบวกลบ(+/-) ต่อราคาทองคำ
- ข่าวเศรษฐกิจสหรัฐที่นักลงทุนควรเฝ้าระวังในวันนี้ได้แก่ FOMC Member Williams Speaksเวลา 19.30 น.
- ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.18% อยู่ที่ระดับ102.48 และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.06% มาอยู่ที่ระดับ 3.822% เมื่อคืนนี้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
- ดอลลาร์แข็งค่ากดดันทองคำ
- บอนด์ยีลด์พุ่งขึ้นกดดันทองคำ
- ตัวเลขเศรษฐกิจ
- เฟดเตรียมแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสถาคองเกรส
มุมมองทองคำทาง Technical
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ ปรับตัวลงเล็กน้อย การซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดสหรัฐหยุด ขณะนี้ราคาเคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 1940 – 1965 แนวโน้มราคาทองคำเป็น Sideways ทั้งนี้ตลาดจับตาการแถลงรายงานเฟดต่อสภาคองเกรสในวันที่ 21-22 มิ.ย. ซึ่งหากผลรายออกมาชี้ว่าเฟดมีแนวโน้มปรับดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปอาจส่งผลกดดันทองคำกลับไปเทส Low เดิมที่ 1925 โดยแนวรับ/แนวต้านที่สำคัญถัดไป อยู่ที่ระดับ 1940 และ 1965
Technical View
แนวรับที่ 1 1940 แนวต้านที่ 1 1965
แนวรับที่ 2 1930 แนวต้านที่ 2 1975
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
