logo

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 25/10/2023

  • ราคาทองปิดลบ 1.70 ดอลลาร์ หลังดัชนีดอลลาร์แข็งค่ากดดันตลาด แม้ภาวะสงครามยังคงหนุนราคาทองคำ ท่ามกลางการจับข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อก่อนการประชุมเฟดช่วงต้นเดือน พ.ย.
  • ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปที่นักลงทุนควรเฝ้าระวังในวันนี้ได้แก่ ยอดสินเชื่อภาคเอกชน เดือน ก.ย. เวลา 15.00 น. ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมามากกว่าคาดจะส่งผลบวกลบ(+/-) ต่อราคาทองคำ
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่นักลงทุนควรเฝ้าระวังในวันนี้ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ เดือน ก.ย. เวลา 21.00 น. ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมามากกว่าคาดจะส่งผลลบ(-) ต่อราคาทองคำ
  • ข่าวเศรษฐกิจยุโรปที่นักลงทุนควรเฝ้าระวังในวันนี้ได้แก่ ECB President Lagarde Speaks เวลา 00.0 น.
  • ข่าวเศรษฐกิจสหรัฐที่นักลงทุนควรเฝ้าระวังในวันนี้ได้แก่ Fed Chair Powell Speaks เวลา 03.35 น.
  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.63 จุด หรือ0.6% มาอยู่ที่ระดับ 106.24 จุด และบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.825%
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
  • ดอลลาร์แข็งค่ากดดันทอง
  • บอนด์ยีลด์ร่วงหนุนทอง
  • ความเห็นเจ้าหน้าที่เฟด
  • ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ
  • สงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส
มุมมองทองคำทาง Technical

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงเทขายทำกำไร  จากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์หลังเปิดเผยดัชนี PMI ออกมาดีกว่าคาดการณ์ โดยขณะนี้ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบ 1954 -1980 แนวโน้มราคาทองคำเป็น Sideways แนวรับ/แนวต้านที่สำคัญถัดไป อยู่ที่ระดับ 1945 และ 1990 อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรซื้อขายอย่างระมัดระวังและป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนจากภาวะสงคราม

Technical View

แนวรับที่ 1 1945 แนวต้านที่ 1 1990
แนวรับที่ 2 1935 แนวต้านที่ 2 2000

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

 

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

ราคา Bitcoin ร่วงลงมาที่ระดับ 25,400 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนหวั่น Binance ตามรอย Ripple Labs

ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงแตะระดับราคา 25,375 ดอลลาร์โดยราคาร่วงลงกว่า 5% หลังจากที่ Binance และ CZ ถูก ก.ล.ต. สหรัฐฯ ฟ้องร้องข้อหาละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์สหรัฐฯ

อ่านเพิ่มเติม

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 02/05/2023

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 2-3 พ.ค. โดยนักลงทุนให้น้ำหนัก 85.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และให้น้ำหนักเพียง 14.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย

อ่านเพิ่มเติม