logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566

  • ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่า FED ควรจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง และอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากภารกิจการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
  • นาย Thomas Barkin ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขา Richmond กล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้ออาจจะคงอยู่ต่อไป และทำให้ FED ต้องคงอัตราดอกเบี้ยสูงและนานกว่าที่นักลงทุนคาดไว้
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขา New York เปิดเผยผลสำรวจพบว่า ความต้องการสินเชื่อใหม่ในสหรัฐในรอบปีที่ผ่านมาร่วงลง และอาจจะชะลอตัวต่อไปในอนาคต โดยอัตราการขอสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 41.2% เทียบกับ 44.8% ในปี 2022 และระดับ 45.8% ก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2019
  • สมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของอีซีบีแตะระดับที่มีเสถียรภาพแล้ว ซึ่งอาจจะอยู่ที่ระดับดังกล่าวต่อไปในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ซึ่งเป็นการระบุว่า การพูดถึงเรื่องการลดดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนเวลาอันสมควร ทั้งนี้ หลังจากที่อีซีบีหยุดการขึ้นดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันในเดือนที่แล้วด้วยการคงอัตราดอกเบี้ย ก็ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจว่า การลดดอกเบี้ยอาจจะเกิดขึ้นเมื่อใด
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 20.65 เหรียญ หรือ 1.04% อยู่ที่ระดับ 1,998.5 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 21.30 เหรียญ หรือ 1.08% ปิดที่ 2,001.60 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 25.50 เซนต์ หรือ 1.08% ปิดที่ 23.869 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 18.50 เหรียญ หรือ 1.99% ปิดที่ 945.90 เหรียญ
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันอังคาร โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะจัดการประชุมในวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย.นี้
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 77.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 82.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากโอเปกว่า การประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 26 พ.ย.นี้ จะมีการพิจารณาเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้โอเปกพลัสมีข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567
  • สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 9.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 พ.ย. ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.79 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล
  • ผู้อำนวยการสำนักวางแผนยุทธศาสตร์ทางทะเลและเศรษฐศาสตร์ของกระทรวงฯ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมทางทะเลของจีนอยู่ที่ 7.2 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบปีต่อปี ใน 3 ไตรมาสแรกโดยผลผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งของจีนในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้น 4.6% และ 9.7% ตามลำดับเมื่อเทียบรายปี
  • CZ ผู้ก่อตั้ง Binance บริการซื้อขายคริปโตรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศลงจากตำแหน่งซีอีโอ โดยเขาบอกว่าเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับการละเมิดการป้องกันการฟอกเงินและการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ รวมทั้งยอมรับข้อกล่าวหาและจ่ายค่าปรับราว 4.3 พันล้านดอลลาร์
  • จากเหตุการณ์ดังกล่าว Richard Teng หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของ Binance จะก้าวขึ้นเป็น CEO คนใหม่แทนที่ CZ นับจากนี้เป็นต้นไป โดยเขาได้ให้สัญญาว่า “จะทำให้ Binance มีความปลอดภัย ความโปร่งใส ปฏิบัติตามข้อกำหนด และเติบโตขึ้นต่อไป”
  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลและการแจ้งความเสี่ยงแก่ลูกค้าของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจใช้บริการ และตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเก็บรักษาทรัพย์สินของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัทค้าปลีกหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากภารกิจการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
  • บริษัทมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสเปิดเผยว่า ความต้องการพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในเชิงโครงสร้าง ซึ่งหนุนระบบการเงินโลกที่อิงดอลลาร์นั้น ยังคงแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับความผันผวนของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา
  • HSBC ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ขึ้นเป็น 5.2% จาก 4.9% โดยระบุถึงการอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศโดยรวม
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม