- เมื่อวานราคาทองปิดบวก 18.55 ดอลลาร์ ราคาทองคำพุ่งหลังเกิดเหตุระเบิด
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเยอรมนี ดัชนีผู้ผลิต (PPI) m/m เดือนมี.ค. คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอังกฤษ ยอดขายปลีก เดือนมี.ค. คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
- กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 827.59 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways Up
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี เนื่องสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- นักวิเคราะห์จากบริษัทGainesville Coins กล่าวว่า ทุกครั้งเมื่อเกิดสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนจะแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เราคาดว่าหากความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น ก็อาจจะทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,500 – 2,600 ดอลลาร์ แต่หากมีการทำข้อตกลงพักรบ ราคาทองคำก็อาจจะร่วงลงแตะระดับ 2,200 ดอลลาร์
- เฟดสาขาเซนต์หลุยส์ระบุว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนกำไรของบริษัทขนาดเล็ก เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย ขณะที่เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า เงินเฟ้อยังคงปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และระบุว่าผู้บริโภคมีความระมัดระวังมากขึ้นในการใช้จ่าย ซึ่งส่งผลให้บริษัทบางแห่งไม่สามารถผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปให้กับผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่
- ราคาทองคำเมื่อวานก่อนเปิดที่ 2361 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2361 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 2378 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical
เมื่อวานนี้ราคาทองคำพุ่งปิดบวก 18.55 ดอลลาร์ ราคาทองคำพุ่งหลังเกิดเหตุระเบิด (+)ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideways Up เช้าวันนี้ราคายังคงทำ New High ของวันก่อน บ่งบอกว่ายังคงมีแรงซื้ออยู่ในระดับที่สูง แนะนำนักเทรดสามารถพิจารณาเปิด Buy ที่ระดับ 2,387 – 2,364 ดอลลาร์ได้ เพื่อทำกำไรระยะสั้นและตัดขาดทุนที่ระดับ 2,364 ดอลลาร์ (+) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideways Up โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,385 ดอลลาร์ และ 2,375 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,425 ดอลลาร์ และ 2,435 ดอลลาร์
Technical View
แนวรับที่ 1 2385 แนวต้านที่ 1 2325
แนวรับที่ 2 2375 แนวต้านที่ 2 2435
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
