logo

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 11/04/2024

  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) m/m เดือน มี.ค. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ ดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) m/m เดือน มี.ค. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ
  • วันนี้มีข่าวสำคัญสหรัฐ FOMC Member Williams Speaks และ FOMC Member Barkin Speaks
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Uptrend
  • แบงก์ ออฟ อเมริกาคาดว่า ราคาทองจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ขณะที่ความต้องการจากธนาคารกลางต่างๆ และผู้ซื้อรายย่อยในจีนแข็งแกร่ง โดยฝ่ายวิจัยระบุว่า “ทองยังคงเป็นหนึ่งในโลหะที่เป็นที่นิยม และเราคาดว่า ทองอาจจะแตะ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปี 2025”
  • รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่19-20 มี.ค.ยังระบุว่า กรรมการเฟดมีความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจจะไม่ชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในระยะเวลาอันใกล้ และแสดงความเห็นว่าเฟดอาจจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
มุมมองทองคำทาง Technical

ภาพรวมราคาทองคําแนวโน้มยังเป็นทิศทางขาขึ้น โดยในระยะสั้นมีแรงเทขายทำกำไรเป็นช่วงๆ ซึ่งขณะนี้ราคาทองคำทรงตัวอยู่ในกรอบ 2330 – 2350 ดอลลาร์ แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นบริเวณแนวรับหากราคายืนได้และขายหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้

Technical View

แนวรับที่ 1  2330 แนวต้านที่ 1 2350
แนวรับที่ 2  2320 แนวต้านที่ 2 2360

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน 

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลข CPI ในวันนี้

จิม วิซคอฟฟ์ นักวิเคราะห์จาก Kitco.com แสดงความเห็นว่า การเปิดประเทศของจีนจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการโลหะมีค่าเช่นทองคำ และโลหะต่าง ๆ ที่ใช้ในแวดวงอุตสาหกรรมซึ่งรวมถึงทองแดง

อ่านเพิ่มเติม

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 15/02/2024

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ โดยนักลงทุนเทขายทองคำอย่างต่อเนื่อง หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงกว่าคาดและส่งผลให้เกิดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้

อ่านเพิ่มเติม