logo

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 18/04/2024

  • เมื่อวานราคาทองปิดลบ 22.10 ดอลลาร์ สหรัฐเริ่มกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ ดัชนีภาคการผลิตจากเฟดฟิลาเดลเฟีย คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
  • กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดขายออก 2.59 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 827.59 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways Up
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Blue Line Futures กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาด และคาดว่าหากสถานการณ์มีความตึงเครียดมากขึ้น ก็อาจจะทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์
  • นายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า”จะเป็นการเหมาะสมที่เฟดจะยังคงรักษาจุดยืนนโยบายแบบเข้มงวดในปัจจุบันไว้ต่อไปเป็นเวลานาน” ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ชะลอตัวลงตามความคาดหมาย
  • ราคาทองคำเมื่อวานก่อนเปิดที่ 2380 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2354 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 2361 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical

เมื่อวานนี้ราคาทองคำปิดลบ 22.10 ดอลลาร์ ราคาทองคำโดนเทขายเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ (-) แม้ราคาทองคำจะมีแรงขายเข้ามา แต่ก็มีแรงซื้อเข้ามาดันราคาเมื่อราคาอ่อนตัวลง แนะนำนักเทรดสามารถพิจารณาเปิด Buy ที่ระดับ 2,353 – 2,345 ดอลลาร์ได้ เพื่อทำกำไรระยะสั้นและตัดขาดทุนที่ระดับ 2,324 ดอลลาร์ (+) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideways Up โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,340 ดอลลาร์ และ 2,330 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,395 ดอลลาร์ และ 2,405 ดอลลาร์

Technical View

แนวรับที่ 1  2340 แนวต้านที่ 1 2395
แนวรับที่ 2  2330 แนวต้านที่ 2 2405

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน 

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม