- เมื่อวานนี้ราคาทองคำปิดบวก 8 ดอลลาร์ หลังกระแสความกังวลวิฤตภาคธนาคารกลับมาอีกครั้ง ส่งผลบวกให้ราคาทองคำช่วงเช้านี้
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเยอรมนีได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนเม.ย. คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนมี.ค. และ ดุลการค้าสินค้า คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลเสียต่อราคาทองคำ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
- กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดซื้อเข้า 2.61 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 930.04 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคารโดยสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกันวันที่ 2 และกลับมายืนเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง เนื่องจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาด
- FedWatch Tool ของCME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 14.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
- นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก25% ในการประชุมวันที่4 พ.ค. จากนั้นจะปรับขึ้นอีกจนแตะ 3.50% หรือสูงกว่านั้นในเดือนมิ.ย. เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง
- ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์เปิดที่ 1988 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 1975 ดอลลาร์ ก่อนราคาพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 1996 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical
วันนี้ราคาทองคำปิดบวก 8 ดอลลาร์ หลังกระแสความกังวลวิฤตภาคธนาคารกลับมาอีกครั้ง (+) ซึ่งในการประชุมครั้งถัดไป FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 14.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00% (-) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideways โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,980 ดอลลาร์ และ 1,970 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,010 ดอลลาร์ และ 2,020 ดอลลาร์
Technical View
แนวรับที่ 1 1980 แนวต้านที่ 1 2010
แนวรับที่ 2 1970 แนวต้านที่ 2 2020
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
