- เมื่อวันก่อนราคาทองปิดลบ 20.94 ดอลลาร์ ตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้
- สภาทองคำโลก เปิดเผยรายงานสถานการณ์ทองคำโลกล่าสุด พบว่า นอกจากปริมาณความต้องการทองคำทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นแล้ว การที่ประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ในภูมิภาคเอเชียมีความต้องการทองคำที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก กำลังดันให้สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นHub หรือศูนย์กลางตลาดทองคำโลกแห่งใหม่ ท่ามกลางแนวโน้มความต้องการทองคำที่เคลื่อนตัวมายังซีกโลกตะวันออกมากขึ้น
- สภาทองคำโลกสรุปว่า สิงคโปร์มีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำตลาดทองคำในอนาคต โดยมีปัจจัยเสริมอย่างความมุ่งมั่นของประเทศต่อเสถียรภาพทางการเมือง และการยกเลิกภาษีการขายทองคำเพื่อการลงทุน ทำให้สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญต่อตลาดทองคำ
- ยูบีเอส โกลบอล รีเสิร์ชระบุว่า คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
- กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดขายออก 1.43 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 829.34 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways Down
- สหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.5% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนเม.ย. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนเม.ย.
- เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ค.
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 4.3% หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ที่ต่ำกว่าคาด
- ราคาทองคำเมื่อวันก่อนหน้าเปิดที่ 2324 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2295 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะขยับขึ้นมาปิดที่ราคา 2303 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical
เมื่อวานนี้ราคาทองปิดลบ 20.94 ดอลลาร์ ตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ (-) ราคาทองคำแกว่งขึ้นแกว่งลงผันผวน บ่งบอกว่ามีแรงซื้อแรงขายเข้ามาเรื่อย ๆ ที่ระดับนี้ หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้านที่ระดับ 2,328 – 2,338 ดอลลาร์ ได้ แนะนำนักเทรดสามารถพิจารณาเปิด Sell ที่ระดับดังกล่าวและตัดขาดทุนที่ระดับ 2,341 ดอลลาร์ โดยแบ่งทำกำไร หากราคาร่วงลงแนวต้านที่ระดับ 2,295 – 2,277 ดอลลาร์ตามการพิจารณาของนักลงทุน (-) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideways Down โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,290 ดอลลาร์ และ 2,280 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,328 ดอลลาร์ และ 2,338 ดอลลาร์
Technical View
แนวรับที่ 1 2290 แนวต้านที่ 1 2328
แนวรับที่ 2 2280 แนวต้านที่ 2 2338
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
