logo

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 21/06/2024

  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ ดัชนี PMI ภาคการผลิต คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ ดัชนี PMI ภาคการบริการ คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ ยอดขายบ้านมือสอง คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ
  • วันนี้มีข่าวนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของเฟด
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways
  • หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัท TD Securities กล่าวว่า ราคาทองคำดีดตัวขึ้นขานรับมุมมองบวกที่ว่า ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะทำให้เฟดเริ่มพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
มุมมองทองคำทาง Technical

ภาพรวมราคาทองคําแนวโน้ม Sideway ในกรอบกว้างเป็นทิศทางขาขึ้น โดยราคาทองคำได้สร้างฐานที่ระดับ 2300 ซึ่งขณะนี้ราคาทองคำวิ่งอยู่ในกรอบกว้าง 2320 – 2380 ดอลลาร์ แนะนำนักลงทุนทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคา โดยหากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านสามารถพิจารณาขายเพื่อทำกำไรในระยะสั้น

Technical View

แนวรับที่ 1  2320 แนวต้านที่ 1 2380
แนวรับที่ 2  2310 แนวต้านที่ 2 2390

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน 

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

ราคา XRP พุ่งทำ high ใหม่รอบ 5 เดือนที่ระดับ 0.53 ดอลลาร์ หลังการยื่นฟ้องของ CFTC  ต่อ Binance

เหรียญ XRP ที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลของเครือข่าย Ripple ได้มีราคาเพิ่มขึ้นสูงถึง 0.5390 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยราคาได้เพิ่มขึ้น 12.80% ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ราคาได้ปรับตัวขึ้นกว่า 50% นับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม

ภาวะเงินเฟ้อในยุโรปยังคงน่ากังวลหนุนดอลลาร์แข็งค่า ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวลดลง 12.4 ดอลลาร์

Fedwatch Tool ของ CME ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และให้น้ำหนักเพียง 11.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค.

อ่านเพิ่มเติม