logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 20 มิถุนายน 2567

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.05 จุด หรือ -0.05% มาอยู่ที่ระดับ 105.2 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.215% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.712% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.5% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
  • นางเอเดรียนา คูเกลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ หากภาวะเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาดไว้
  • ธนาคารจีนตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 กดดันจากค่าเงินหยวน สร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนท่ามกลางแรงกดดันจากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง สาเหตุหลักมาจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไป ส่งผลให้เกิดช่องว่างระหว่างนโยบายการเงินของจีนและสหรัฐฯ กว้างขึ้น
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนเม.ย. โดยระบุว่า กรรมการบริหารของ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเร่งกระบวนการปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติให้เร็วขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนมีความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อและอาจจะทำให้ BOJ ต้องใช้มาตรการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
  • ตลาดหุ้นปิดทำการในวันพุธที่ผ่านมา เนื่องในวันหยุด Juneteenth
  • ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ส แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง นักลงทุนจับตาดูว่าดัชนีหลักจะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องได้หรือไม่
  • ดัชนี Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.1%
  • ดัชนี Dow Jones Industrial Average ฟิวเจอร์ส ปรับตัวลง 0.1%
  • ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปิดบวกประจำสัปดาห์หลังจากดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite ทำสถิติสูงสุดใหม่
  • หุ้น Nvidia พุ่งขึ้นอย่างโดดเด่น กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก แซงหน้า Microsoft ราคาหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 174% ในปี 2567 แรงขับเคลื่อนจากกระแสความนิยมในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ตัวเลขเงินเฟ้อลดลงจากระดับ 2.3% ในเดือนเม.ย. เป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ถือว่าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 และลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดในรอบ 41 ปี ที่ 11.1% ในเดือนต.ค. 2565
  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพ.ค. เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ยอดนำเข้าเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 9.5 ล้านล้านเยน 
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -0.79 เหรียญ หรือ -0.03% อยู่ที่ระดับ 2,327.87 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 825.31 ตัน ภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 6.9 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 53.8 ตัน
  • ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ 
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent) ปิดตลาดอยู่ที่ประมาณ 85 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังจากแตะระดับสูงสุดในวันเดียวกันนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีดิเอท (WTI) ของสหรัฐฯ แทบไม่เปลี่ยนแปลง อยู่เหนือระดับ 81 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
  • สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานว่า ปริมาณคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.26 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว หากข้อมูลจากหน่วยงานทางการยืนยัน จะเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 นอกจากนี้ ปริมาณคงคลังที่ศูนย์กลางการขนส่งน้ำมันดิบ ค Cushing รัฐโอคลาโฮมา ก็เพิ่มขึ้นเช่นกันตามข้อมูลของ API
  • การเพิ่มขึ้นของปริมาณคงคลัง ส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น โดยดัชนี S&P 500 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
  • ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวจากช่วงต้นเดือนที่ปรับตัวลง หลังกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ประกาศว่าอาจจะนำน้ำมันดิบกลับเข้าสู่ตลาด แต่ต่อมาได้ชี้แจงว่าแผนดังกล่าวขึ้นอยู่กับเงื่อนไข
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

ราคาทองคำปิดลบ 9 วันติดต่อกัน รับแรงกดดันบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี

นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจยอดค้าปลีกอังกฤษและดัชนี CPI ยุโรปในวันนี้ ส่วนสหรัฐวันนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญให้ติดตาม

อ่านเพิ่มเติม

นักลงทุนคาดเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยบวกดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลกดดันราคาทองคำหลุด 2000 ดอลลาร์ อีกครั้ง

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และให้น้ำหนักเพียง 11.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค.

อ่านเพิ่มเติม