ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำคือดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวลดลง -0.34% สู่ระดับ 101.94 จุด และบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.07% มาอยู่ที่ระดับ 4.0%

               ราคาทองคำปิดลบเพียง 1.5 ดอลลาร์ แม้ก่อนหน้าปรับตัวลดลงสอบ Low ที่ระดับ 1913 แต่ราคาถูกสกัดช่วงลบหลังดัชนีดออลลาร์อ่อนค่าและบอนด์ยีลด์สหรัฐร่วง ท่ามกลางการจับตาตัวเลขดัชนี CPI ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีผลต่อการกำหนดทิศทางดอกเบี้ยนโยบายเฟด โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 3.1% จากระดับ 4% ในเดือนก่อนหน้า

               นอกจากนี้  นางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าว สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% พร้อมทั้งยังกล่าวด้วยว่า การดำเนินการที่น้อยเกินไปจะสร้างความเสี่ยงมากกว่าการดำเนินการที่มากเกินไป แต่ขณะนี้การดำเนินการของเฟดมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น และเฟดก็ใกล้จะเข้าสู่ ‘ช่วงสุดท้าย’ ของวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กดดันราคาทองคำ

               ในขณะที่ นายออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า เขาไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เฟดที่ว่า อัตราดอกเบี้ยจะต้องปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้เพื่อจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังสูงเกินไป โดยเป้าหมายหลักของเฟดในตอนนี้คือการทำให้เงินเฟ้อลดลง พร้อมเสริมว่า เขาเชื่อว่า นั่นสามารถทำได้โดยที่ไม่ทำให้อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับที่จะหมายถึงภาวะถดถอย หนุนราคาทองคำ

               ครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% และในน้ำหนักเพียง 7% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมวันที่ 25 – 26 ก.ค.

               ทั้งนี้  นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขดัชนี CPI ในวันพรุ่งนี้ และตัวเลขดัชนี PPI ในวันพฤหัส เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด