ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ปรับตัวลดลง

               ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำคือดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวลดลง -0.31 % สู่ระดับ 103.88 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.05% มาอยู่ที่ระดับ 3.817%

               ราคาทองคำฟื้นตัวหลังปรับตัวลดลง 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่ราคาแตะระดับ 1959 ท่ามกลางแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายที่ยังสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดย  เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เขาไม่ปฏิเสธว่าเขาจะสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.นี้ แทนที่จะเป็นการปรับขึ้น 0.25% 

               นอกจากนี้ ลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไป พร้อมกับเปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เธอเป็นผู้เสนอให้คณะกรรมการเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ ต้องการ

               ทั้งนี้ นักลงทุนต้องเฝ้าติดตามการประชุมของเฟดในครั้งถัดไป เพื่อชี้ทิศทางในการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด

มุมมองนักวิเคราะห์

✎หัวหน้ามหภาคระดับโลกของ Tastylive กล่าวว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง และดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการประเมินครั้งใหม่ โดยตลาดคาดว่าเฟดจะตึงเข้มนโยบายมากขึ้น และนั่นอาจเป็นผลเสียต่อราคาทองคำ

ราคาทองคำวันนี้

ราคาทองคำตลาดโลก  
ปรับตัวขึ้น 6.41 เหรียญ หรือ 0.35% อยู่ที่ระดับ 1,842.36  ดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX  
ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 1.6 เหรียญ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,850.2 ดอลลาร์/ออนซ์

กองทุนทองคำ SPDR  
วันก่อนหน้าขายออก 1.16 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 919.92 ตันภาพรวมเดือนกุมภาพันธ์ ขายสุทธิ 0.59 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 2.28 ตัน

ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง

-เกิดความกังวลเจ้าหน้าที่เฟดหนุนปรับดอกเบี้ย

-ดอลลาร์และบอนด์ยีลปรับตัวลดลง


หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลมีการซื้อขายตลอด 24 ชม. ไม่ควรใช้เพื่อการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อขาย ข้อมูลดังกล่าวไม่มีเจตนาชี้นำการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม