logo

ราคาทองปิดบวก 11.8 ดอลลาร์ หลังได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่าบวกบอนด์ยีลด์ร่วง

ข่าวราคาทองคำ

               ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำคือดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวลดลง -0.19% สู่ระดับ 101.8 จุด และบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.06% มาอยู่ที่ระดับ 3.538%

                นักลงทุนเข้าซื้อทองคำท่ามกลางความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยสหรัฐหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 245,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 240,000 ราย บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอ่อนแอ

               นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐได้เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะงักงันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การจ้างงานและเงินเฟ้อชะลอตัวลง และการเข้าถึงสินเชื่อลดน้อยลงด้วย ซึ่งสร้างความกังวลต่อตลาดหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

               ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาอ่อนแอ

มุมมองนักวิเคราะห์และข่าวธนาคารกลาง

✎นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า แม้ว่าภาคธนาคารของสหรัฐยังคงมีเสถียรภาพหลังเกิดเหตุการณ์ธนาคารล้มละลายครั้งใหญ่เป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์สหรัฐ แต่การที่ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อนั้น กำลังส่งผลให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจเข้าถึงเงินกู้ได้ยากขึ้น และท้ายที่สุดแล้วจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย

ราคาทองคำวันนี้

ราคาทองคำตลาดโลก  
 ปรับตัวขึ้น 10.01 เหรียญ หรือ 0.5% อยู่ที่ระดับ 2,004.32  ดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX  

ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 11.80 เหรียญ หรือ 0.59% ปิดที่ 2,019.10 ดอลลาร์/ออนซ์

กองทุนทองคำ SPDR  
วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 926.57 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ขายสุทธิ 1.45 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 8.93 ตัน

ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น

-บอนด์ยีลด์สหรัฐร่วงบวกดอลลาร์อ่อนค่าหนุนราคาทองคำ

-ตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลมีการซื้อขายตลอด 24 ชม. ไม่ควรใช้เพื่อการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อขาย ข้อมูลดังกล่าวไม่มีเจตนาชี้นำการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม