ประโยชน์ของ RSI ดังนี้
- ใช้ RSI ดูราคาซื้อ – ขาย ว่าอยู่ในระดับ Peak แล้วหรือยัง
- ใช้ RSI ดูการแนวโน้ม การกลับตัวของราคา ( Divergence) ซึ่ง RSI เป็น Indicator ที่บอกสัญญาณกลับตัวได้ค่อนข้างไว
- ใช้ RSI ดูสัญญาณการซื้อ – ขาย
ในบทความนี้เราจะมาดูการใช้ประโยชน์การใช้งานของ RSI โดยดูสัญญาณการกลับตัวของราคาหรือที่เรียกว่า “Divergence”
Divergence คือ การขัดกันของทิศทางของแนวโน้ม เช่น กราฟเกิดการ Lower Low เป็นสัญญาณของทิศทางขาลง แต่อินดิเคเตอร์ โมเมนตัม (Momentum Indicator) ของราคาจาก RSI มีทิศทางยกขึ้นซึ่งมีความขัดแย้งกันชัดเจน ดังนั้นจึงเป็นการเตือนว่า มีโอกาสที่ขาลงจะจบแล้วเปลี่ยนเป็นขาขึ้นจะเกิดได้ค่อนข้างสูง จะเรียกว่า
Bullish Divergence หรือ กระทิงกำลังมา หรืออาจจะกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น ควรมองหา Divergence จาก RSI ที่ระดับ 30 หรือต่ำกว่า จึงจะมีโอกาสเกิดการกลับตัวสูง โดยกราฟจะยังทำจุดต่ำสุดต่ำลงเรื่อย ๆ (Lower low) แต่ตัวอินดิเคเตอร์มีจุดต่ำสุดที่ยกตัวสูงขึ้น (Higher Low)
Bearish Divergence หรือ หมีกำลังมา
คือ การเคลื่อนที่กราฟอยู่ในทิศทางขาขึ้น ทำให้เกิด Higher High มีโอกาสกลับตัวเป็นขาลง เนื่องจากอินดิเคเตอร์ โมเมนตัม (Momentum Indicator) เช่น RSI ไม่ได้ทำสัญญาณสูงขึ้น จึงมีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวหาจังหวะในการ Sell ดังนั้นการเทรดแบบ Bearish Divergence ควรมองหาสัญญาณกลับตัวจาก RSI ที่ระดับ 70 หรือสูงกว่า เพื่อลดสัญญาณหลอก
ประเภทของ Divergence
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- Bullish Divergence หรือ กระทิงกำลังมา คือ การที่กราฟลงอยู่อาจทำให้เกิดการกลับตัวในทิศขึ้น
- Bearish Divergence หรือ หมีกำลังมา คือ การที่กราฟขึ้นอยู่แต่อาจทำให้เกิดการกลับตัวในทิศลง
– Strong: มีความน่าจะเป็นในระดับสูงสุดอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้ขัดกันอย่างรุนแรง เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้เห็นราคาทำ Lower Low อย่างชัดเจน แต่อินดิเคเตอร์ โมเมนตัม (Momentum Indicator) มีทิศทางเพิ่มขึ้นขัดกันอย่างชัดเจน จะเรียกว่า Strong Bullish Divergence ซึ่งมีโอกาสกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้นที่สูงได้ ในทางกลับกันเมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาทำ Higher High แต่อินดิเคเตอร์ โมเมนตัม (Momentum Indicator) ทำ Lower High อย่างชัดเจน ทำให้กราฟขัดกันอย่างรุนแรง จึงทำให้เป็นสัญญาณเตือนว่า เป็น Strong Bearish Divergence มีโอกาสกลับตัวจากขึ้นเป็นลงที่สูง
– Medium: มีความน่าจะเป็นค่อนข้างสูง ราคาไม่ทำ Lower Low หรือ Higher High อย่างชัดเจนแต่ โมเมนต้ำขัดกันชัดเจน ก็มีโอกาสในการกลับตัวสูงแต่ไม่เท่าแบบ Strong
– Weak: มีความน่าจะเป็นในระดับปานกลาง ราคาทำ Lower Low แต่อินดิเคเตอร์ โมเมนตัม (Momentum Indicator) ไม่เกิดการขัดกันอย่างชัดเจนทำให้เป็นสัญญาณแบบ Weak ซึ่งมีความน่าจะเป็นในการกลับตัวไม่สูงมากนัก
– Hidden: มีความน่าจะเป็นในการกลับตัวค่อนข้างต่ำ ราคาอยู่ในช่วง Side way มีโอกาสในการกลับตัวค่อนข้างต่ำ จึงไม่แนะนำให้เทรดในรูปแบบ Divergence แบบ Hidden เพราะมีความเสี่ยง
อ้างอิง